9 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนเลือกแปรงสีฟัน!

9 เรื่องที่ต้องรู้

ก่อนเลือกแปรงสีฟัน

เรื่องที่พื้นฐานที่สุด อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามไป อย่างการเลือกแปรงสีฟัน ที่จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่ด้ามจับ กับขนแปรงเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายจุดที่เราต้องใส่ใจ เพราะไม่เช่นนั้น อุปกรณ์ที่ควรดูแลช่องปากของเรา อาจจะทำร้ายเหงือกและฟันโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้

เรื่องของแปรงสีฟันจะมีส่วนประกอบอะไร และมีจุดไหนที่ต้องใส่ใจบ้าง DragCura จะพาทุกคนเจาะลึกกัน!

แปรงสีฟันตามท้องตลาดมักจะมีความแข็งของขนแปรงให้เราเลือกหลายแบบมาก ทั้งขนอ่อนนุ่ม ขนแข็งปานกลาง ขนแข็งไปเลย แต่รู้ไหมว่าความแข็งของขนแปรงจะต้องมีความพอดี ถึงจะปลอดภัยต่อเหงือกและฟัน ถ้าเลือกไม่ดีสิ่งที่ตามมาอาจส่งผลเสียกว่าที่คิดได้

ถ้าเลือก ขนแปรงอ่อนไป แม้จะนุ่มสบายเหงือกแต่ประสิทธิภาพการขจัดคราบสกปรก และเศษอาหาร อาจไม่ดีพอทำให้ยังหลงเหลืออยู่ และทำให้ฟันผุในที่สุด

ถ้าเลือก ขนแปรงแข็งไป หลายคนรู้สึกว่าทำความสะอาดได้ดี บางคนเลือกแบบแข็งจนแปรงเอาหินปูนหลุดออกได้ แต่รู้ไหมว่าการที่ขนแปรงแข็งไปถูกกับเหงือกอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดแผล เมื่อใช้เป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้เป็นเหงือกร่นได้ในที่สุด

สุดท้ายแล้วขนแปรงต้องนุ่มแบบพอดี ขจัดคราบได้เยี่ยม เป็นมิตรต่อเหงือกและฟัน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกขนแปรงสีฟันนั่นเอง

อีกเรื่องที่หลายคนอาจมองข้ามไป จนลืมไปว่าปลายขนแปรงสีฟันก็มีความสำคัญเช่นกัน อาจมีบางคนเข้าใจว่าการเลือกขนแปรงที่ปลายแหลมจะช่วยให้ซอกซอน ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งกรมอนามัยได้ระบุมาตรฐานของขนแปรงสีฟันว่า ควรเป็นแบบควรกลมมน (Round Ended) เรียบ หรือถ้าปลายขนแปรงแหลม จะต้องไม่แหลมคมเกินไป และต้องเป็นแบบขนนุ่มเท่านั้น ซึ่งประเภทขนแปรงแบบหลังนั้น เราต้องดูดี ๆ เพราะถ้าหากใช้ขนแปรงที่ไม่ได้มาตรฐานดีพอ อาจทำให้เหงือกเลือดออก เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อในช่องปาก ส่งผลเสียอย่างคอฟันสึก, เหงือกร่น และปัญหาช่องปากอื่น ๆ ตามมาได้

เราเคยอาจได้ยินคำว่าแปรงสีฟันที่ดีจะต้องไม่อมน้ำ สาเหตุที่ต้องเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าถ้าเราใช้แปรงที่อมน้ำ จะทำให้มีเชื้อการสะสมของเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียในขนแปรง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุการป่วยของเราได้

ดังนั้นเราควรเลือกขนแปรง ที่ไม่อมน้ำและแห้งไว เพื่อสุขอนามัยที่ดีในการแปรงฟันทุกครั้งของเรา

รู้ไหมว่ากว่าที่แปรงสีฟันจะผ่านมาตรฐานได้ ความสั้นยาวของขนแปรงก็มีผลต่อการพิจารณาเช่นกัน โดยเรื่องนี้กรมอนามัยได้กำหนดมาตรฐานเอาไว้ ขึ้นอยู่กับว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของขนแปรงมีเท่าไหร่ โดยความยาวของขนแปรงจะอยู่ประมาณที่ 7 – 13 มม.

ส่วนในเรื่องความยาวของขนแปรงมีผลต่อการใช้งานมาก เช่นในคนทั่วไป หากขนแปรงยาวเกินไป การควบคุมแปรงสีฟันอาจทำได้ยาก หรือในกลุ่มผู้จัดฟัน หากขนแปรงมีความยาวไม่เหมาะสม ก็อาจทำความสะอาดรอบอุปกรณ์จัดฟันไม่ได้ดีพอ และอาจทำให้เกิดฟันผุได้ในที่สุด

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าขนแปรงแต่ละด้ามนั้นจะอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันกว่าเส้น และจะจัดวางเป็นกระจุกย่อม ๆ ทั่วบริเวณหัวแปรงสีฟัน ยิ่งจำนวนขนแปรงสีฟันเยอะ เส้นผ่าศูนย์กลางของขนแปรงสีฟันย่อมเล็กลง เพื่อให้สามารถจัดวางบนขนแปรงสีฟันได้

ถ้าขนแปรงน้อยไป การทำความสะอาดก็อาจมีประสิทธิภาพไม่พอ หรือถ้าขนแปรงเยอะมากเกินไปหลักหมื่นเส้นอาจทำให้ขนแปรงนุ่มและแน่นเกินไป ที่จะขัดคราบสกปรกออกได้

ดังนั้นจำนวนขนแปรงจะต้องมีความพอดีเพื่อการทำความสะอาด ขจัดคราบแบคทีเรีย และเศษอาหารในช่องปากของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ในท้องตลาด หน้าตัดขนแปรงสีฟันมีหลายแบบมาก ทั้งซิกแซก เป็นคลื่น แบบไขว้ และอื่น ๆ อีกมาก แต่ขนแปรงที่ทันตแพทย์หลายคนแนะนำ ก็คือแบบหน้าตัดตรง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดคราบพลัค แบคทีเรีย และเศษอาหารได้อย่างดี สม่ำเสมอ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าขนแปรงแบบโค้ง หรือมีความสม่ำเสมอของขนแปรงไม่เท่ากัน

แปรงสีฟันหัวใหญ่ไป ก็อาจทำความสะอาดช่องปากไม่ทั่วถึง หัวแปรงสีฟันเล็กไปก็อาจทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือทำให้เราใช้เวลาในการแปรงฟันมากกว่าปกติ โดยเรื่องของขนาดหัวแปรงสีฟันทางกรมอนามัยได้กำหนดมาตรฐานตามนี้

แปรงเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี : หัวแปรงยาวไม่เกิน 20 มม. กว้างไม่เกิน 11 มม. หนาไม่เกิน 6 มม.

แปรงเด็กอายุ 3 – 6 ปี : หัวแปรงยาวไม่เกิน 23 มม. กว้างไม่เกิน 11 มม. หนาไม่เกิน 6 มม.

แปรงเด็กอายุ 6 – 12 ปี : หัวแปรงยาวไม่เกิน 27 มม. กว้างไม่เกิน 11 มม. หนาไม่เกิน 6 มม.

แปรงผู้ใหญ่ : หัวแปรงยาวไม่เกิน 35 มม. กว้างไม่เกิน 15 มม. หนาไม่เกิน 7 มม.

ถือได้ว่าความเหมาะสมของขนาดของหัวแปรง เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม หากต้องการแปรงสีฟันที่ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื่องจากแปรงสีฟันเป็นส่วนที่สัมผัสกับช่องปากโดยตรง ความปลอดภัยเรื่องของวัสดุจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หลาย ๆ แบรนด์เลือกวัสดุที่เป็น BPA Free ไม่มีสาร BPA ลดความเสี่ยงก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งเป็นวัสดุนิยมใช้ผลิตภาชนะอาหารด้วย

สำหรับบางแบรนด์ที่ทำแปรงสีฟันเด็ก อาจต้องใช้ซิโลโคนเพื่อป้องกันการกระแทก และให้เด็กกัดได้ โดยปลอดภัย ดังนั้นการเลือกใช้ซิลิโคนคุณภาพสูงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

บางแบรนด์ใช้พลาสติกไบโอเกรด ย่อยสสลายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ดังนั้นเรื่องของวัสดุของด้ามแปรงสีฟัน จึงมีความสำคัญเช่นกัน

เรื่องของด้ามจับแปรงสีฟัน มีหลากหลายดีไซน์มาก ทั้งแบบด้ามกลม ด้ามแบน เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไป แต่บางแบรนด์ ก็เลือกที่จะใส่ใจกับด้ามแปรงสีฟัน เพื่อช่วยให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ดีไซน์ด้ามแปรงสีฟันแบบ 8 เหลี่ยม ที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถควบคุมขนแปรงสีฟันให้ทำมุม 45 องศา กับผิวฟัน เพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบแบคทีเรียมากขึ้น

บางแบรนด์ดีไซน์ด้ามจับให้พอดีกับอุ้งมือ และยังเลือกให้เฉพาะเจาะจงกับคนที่ถนัดมือซ้าย หรือมือขวา ช่วยการจับด้ามแปรงไม่เมื่อยมือ ทำให้แปรงฟันได้นานขึ้นครบ 2 นาทีตามที่ทันตแพทย์แนะนำได้

แน่นอนว่าเรื่องของด้ามแปรงสีฟัน ก็เป็นส่วนที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถ้ายังเลือกแปรงไม่ได้ หรือรู้สึกว่ารายละเอียดเยอะเกินไป เรื่องแบบนี้ปรึกษา DragCura แค่ทักหาแอดมิน หรือ Personal Curator หน้าสาขา เราพร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่อง เกี่ยวกับแปรงแน่นอน!

คำเตือน: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม